(1) 構念 p.25所謂構念，抽象概念常稱之。概念的抽象性有不同層級

(1) 構念 p.25
所謂構念，抽象概念常稱之。
概念的抽象性有不同層級之分，意即概念本身涉及具體實物的程度有所不同。舉例而言，桌子為具體的概念；然個性即為一種極抽象的概念，難以具體化。諸如此類的抽象概念常被稱為構念。
換言之，為了特定研究或基於建構理論的目的，而明確的發展出一個形象或抽象的想法，稱為構念。尤其是在我們企圖傳達的想法或形象，無法由直接觀察得到的時候，藉著混和更簡單、更具體的概念，我們建立的構念。即多個概念組成了構面。
(2) 操作性定義 p.26
操作性定義是以專有名詞陳述具體準則的定義，作為檢定或測量的依據。
而這些專有名詞必須提到實證的標準(即是我們必須能夠計算、測量，或透過感知以其他方式蒐集資訊)。不論定義的對象是實體的或高度抽象的，都必須說明其特性以及觀察方式。規格與程序必須非常清楚，讓任何人都能使用相同方式執行。
(3)因果性假說 p.32、33
又稱解釋性假說，暗示一個變數的存在或改變，會引發或導致另一個變數的改變。原因變數一般又稱為獨立變數(IV)，其他的則稱為依變數(DV)。而獨立變數不須是造成依變數存在或改變的唯一因素。
再提出或解釋因果性假說時，研究者必須思考影響的方向。而這些通常可由變數性質觀察到。
(3) 可驗證的檢定 p.37、38 ( 我找不太到答案 > < )
意即是可以透過感官經驗或歸納邏輯(包括數學和統計)的方式，指導觀察與命題。重點在於可以「實證」。
(5) 演繹法與歸納法 p.38、39
 演繹法
為一種結論式的辯論：必須遵循已知的理由得出結論。這些理由隱含著結論並代表著證據。與歸納法相比，理由和結論間的連結性更強。
為了使演繹法結果正確，這些理由必須真實且有效。舉例而言：所有的人都會死(理由)，蘇格拉底是人，所以蘇格拉底會死(結論)。
 歸納法
是根據一個或更多特定的事實或證據來提出結論，理由和結論間的連結性不如演繹法那麼強。這個結論解釋這些事實，而事實支持這結論。但結論只是一項假說，只是一種解釋，仍還有其他解釋也能符合這事實。
舉例而言，黑人有一個鼻子；白人有一個鼻子；黃種人也有一個鼻子；所以只要是人都有一個鼻子。

結果 (泰文) 2:

(1) สร้าง p.25
โครงสร้างที่เรียกว่าแนวคิดมักจะเรียกว่า
แนวคิดของระดับที่แตกต่างของจุดที่เป็นนามธรรมซึ่งหมายความว่าแนวความคิดของตัวเองที่เกี่ยวกับขอบเขตของชนิดที่เฉพาะเจาะจงของที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นโต๊ะสำหรับแนวคิดเฉพาะบุคลิกของธรรมชาติเป็นแนวคิดที่เป็นนามธรรมมากคอนกรีตหนัก เช่นเดียวกับสิ่งที่เป็นนามธรรมที่เรียกว่าโครงสร้างมักจะ
ในคำอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะของการวิจัยหรืออยู่บนพื้นฐานของทฤษฎี constructivism และพัฒนาภาพที่ชัดเจนหรือความคิดที่เป็นนามธรรมที่เรียกว่าโครงสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพยายามที่จะถ่ายทอดความคิดหรือภาพที่ไม่สามารถหาได้โดยการสังเกตโดยตรงโดยการผสมง่ายแนวคิดเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเราจัดตั้งโครงสร้าง แนวคิดที่ประกอบด้วยหลายแง่มุม
(2) ความหมายของการดำเนินงานหน้า 26
ความหมายในการดำเนินงานจะขึ้นอยู่กับความหมายของคำนามที่เหมาะสมแนวทางที่เฉพาะเจาะจงมาเป็นพื้นฐานสำหรับการสอบเทียบหรือการวัด
มาตรฐานเหล่านี้ต้องได้รับการกล่าวถึงคำนามที่เหมาะสมเชิงประจักษ์ (กล่าวคือเราจะต้องสามารถที่จะคำนวณการวัดหรือผ่านการรับรู้อย่างอื่นเก็บรวบรวมข้อมูล) ไม่ว่าจะเป็นวัตถุที่ถูกกำหนดไว้หรือนิติบุคคลที่เป็นนามธรรมมากก็ต้องอธิบายลักษณะของพวกเขาและวิธีการในการมองเห็น ข้อมูลจำเพาะและขั้นตอนต้องมีความชัดเจนมากเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ในการดำเนินการในลักษณะเดียวกัน
(3) p.32,33
สมมติฐานสาเหตุที่รู้จักกันเป็นสมมติฐานที่อธิบายบอกการปรากฏตัวหรือเปลี่ยนตัวแปรก็จะทำให้เกิดหรือนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในตัวแปรอื่น ตัวแปรเหตุผลที่ทั่วไปเรียกว่าตัวแปรอิสระ (IV), อื่น ๆ จะเรียกว่าตามตัวแปร (DV) ตัวแปรอิสระที่ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่จะขึ้นอยู่กับตัวแปรการปรากฏตัวหรือเปลี่ยนแปลง
หรืออีกครั้งเมื่อถามว่าจะอธิบายสมมติฐานสาเหตุที่นักวิจัยต้องคิดเกี่ยวกับทิศทางของผลกระทบ เหล่านี้มักจะสามารถสังเกตธรรมชาติตัวแปร
(3) การทดสอบ p.37,38 ตรวจสอบได้ (ผมไม่ได้หาคำตอบ> <)
หมายความว่าคุณสามารถมีประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสหรือตรรกะอุปนัย (รวมทั้งคณิตศาสตร์และสถิติ) วิธีการแนวทางการสังเกตและข้อเสนอ มันสามารถมุ่งเน้นไปที่ "เชิงประจักษ์."
(5) การหักและเหนี่ยวนำ p.38,39
Øหักสูตรเป็นบทสรุปของการอภิปราย: การต้องเป็นไปตามเหตุผลที่รู้จักกันที่จะสรุป
ด้วยเหตุผลเหล่านี้สรุปโดยปริยายและเป็นตัวแทนหลักฐาน เมื่อเทียบกับวิธีการอุปนัยบริเวณข้อสรุปและการเชื่อมโยงระหว่างแข็งแกร่ง
เพื่อที่จะทำให้ผลการหักเงินที่ถูกต้องเหตุผลที่จะต้องเป็นจริงและมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่นทั้งหมดของพวกเขาจะตาย (เหตุผล) โสกราตีสคือคนจึงตายโสกราตีส (สรุป) การเหนี่ยวนำจะขึ้นอยู่กับหนึ่งหรือข้อเท็จจริงที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นหรือหลักฐานที่จะทำให้การเชื่อมโยงระหว่างการสรุปการหักด้อยเหตุผลและข้อสรุประหว่างแข็งแรงมาก ข้อสรุปนี้คือการอธิบายข้อเท็จจริงเหล่านี้และข้อเท็จจริงที่จะสนับสนุนข้อสรุปนี้ แต่ข้อสรุปที่เป็นเพียงสมมติฐาน แต่การตีความยังคงมีคำอธิบายอื่น ๆ นอกจากนี้ยังสามารถที่จะตอบสนองความเป็นจริงนี้ ตัวอย่างเช่นคนผิวดำมีจมูก; จมูกคนผิวขาว; คนสีเหลืองนอกจากนี้ยังมีจมูกดังนั้นตราบใดที่คนมีจมูก

結果 (泰文) 3:

( 1 ) สร้าง p.25
เรียกว่าสร้างแนวคิดที่เป็นนามธรรมมักจะเรียกว่า แนวคิดที่เป็นนามธรรม

มีร้อยละของระดับที่แตกต่างกันซึ่งหมายถึงวัตถุที่เป็นรูปธรรมของแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับองศาที่แตกต่าง ตัวอย่างเช่นตารางที่เป็นรูปธรรมและบุคลิกภาพซึ่งเป็นแนวคิดที่เป็นนามธรรมที่ยากที่เฉพาะเจาะจง ชอบแนวคิดที่เป็นนามธรรมที่มักจะเรียกว่าสร้าง
ในคำอื่นๆเพื่อการศึกษาที่เฉพาะเจาะจงหรือบนพื้นฐานของการสร้างทฤษฎีที่ชัดเจนของวัตถุประสงค์และการสร้างภาพหรือความคิดนามธรรมที่เรียกว่าสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพยายามที่จะสื่อสารความคิดหรือภาพที่ไม่สามารถสังเกตได้โดยตรงโดยการผสมในเวลาที่เฉพาะเจาะจงและง่ายแนวคิดเราสร้างสร้าง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ประกอบด้วยหลายมิติ ( 2 นิยามปฏิบัติการ ) ) ) ) ) ) )





p.26 นิยามปฏิบัติการโดยการนำเสนอมาตรฐานที่เฉพาะเจาะจงคำนามในความหมายของการตรวจสอบหรือวัดเป็นฐาน

ที่ต้องกล่าวถึงวิสามานยนามมาตรฐานเชิงประจักษ์ ( คือเราต้องสามารถวัดและคำนวณโดยวิธีอื่นหรือผ่านการรวบรวมข้อมูล ) ไม่ว่านิยามของวัตถุหรือนามธรรมที่เป็นนิติบุคคลจะต้องแสดงให้เห็นถึงลักษณะและสังเกตลักษณะ รายละเอียดและขั้นตอนที่ต้องชัดเจนเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้วิธีเดียวกันกับการ
( 3 ) สาเหตุ p.32 33
เรียกว่าสมมติฐานและสมมติฐานในการอธิบาย ,บ่งบอกว่าเป็นรถของตนหรือการเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่อีกหนึ่งการเริ่มต้นหรือการเปลี่ยนแปลงของตัวแปร สาเหตุโดยทั่วไปจะเรียกว่าตัวแปรอิสระตัวแปร ( IV ) , และคนอื่นๆเรียกว่า ( DV ) ตัวแปรตาม ตัวแปรอิสระและตัวแปรตามไม่ต้องเป็นตนหรือการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยเดียว

จะแนะนำหรืออธิบายสมมติฐานของสาเหตุที่ผู้วิจัยจะต้องพิจารณาทิศทางของผลกระทบ และเหล่านี้มักจะสามารถสังเกตได้จากลักษณะของตัวแปร
( 3 ) สามารถตรวจสอบและการตรวจสอบ p.37 38 ( ผมก็หาคำตอบไม่เจอ > < )
) สามารถทำได้ผ่านประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสหรือตรรกะเชิงอุปนัย ( คณิตศาสตร์และสถิติ ) ในลักษณะที่สังเกตและข้อเสนอแนวทาง " " " " " " " " " " " " " " จะเน้นในเชิงประจักษ์

( 5 ) วิธีสอนแบบนิรนัยและอุปนัยและนิรนัยจะ p.38 39

เป็นสรุปการอภิปรายจะต้องปฏิบัติตาม : รู้จักเหตุผลสรุปได้ว่า ด้วยเหตุผลเหล่านี้หมายถึงการเป็นตัวแทนของหลักฐาน สรุปและเปรียบเทียบกับวิธีการเชื่อมต่อระหว่างเหตุผลและข้อสรุปที่แข็งแกร่ง


เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องวิธีอนุมานเหตุผลเหล่านี้ต้องเป็นจริงและมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น : มนุษย์ทุกคนจะต้องตาย ( แก้ตัว ) เพื่อนที่เป็นมนุษย์ , ดังนั้นเขาจะตาย ( สรุป )





เพื่ออุปนัยจากหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งโดยเฉพาะเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงหรือหลักฐานในการสรุปเหตุผลและข้อสรุปการเชื่อมต่อระหว่างเพศไม่หักลบแล้ว . . . . . . . ข้อสรุปนี้ตีความข้อเท็จจริงแต่ในความเป็นจริงนี้ได้รับการสนับสนุนโดยสรุป แต่สรุปเป็นเพียงสมมติฐานที่ยังเป็นเพียงการอธิบาย , คำอธิบายอื่นที่สามารถสอดคล้องกับความเป็นจริงนี้
ตัวอย่างเช่นมีหนึ่งจมูกสีดำสีขาวมีสีเหลืองมีจมูกหนึ่งจมูก ; ดังนั้นทุกคนมีหนึ่งจมูก